ประกาศ

เปิดรับอาสาสมัครนักสิทธิมนุษยชน รุ่น 18 (วันนี้ - 29 ก.พ. 67)

ลงชื่อเข้าร่วมในแถลงการณ์จากกลุ่มภาคีนิติธรรมพลเมือง "สารถึงคนหนุ่มสาวผู้กล้าหาญ และคำเรียกร้องต่อศาลเพื่อทรงสถิตยุติธรรม"

กลุ่ม @BeachForLifeTH เเละขบวนประชาชนทวงคืนชายหาด 91 องค์กร ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล เพื่อทวงคืนชายหาดจากการก่อสร้างกำเเพงกันคลื่น

#ดงมะไฟ ไม่ใช่เหมืองธรรมดา แต่เป็นเหมืองที่ยึดคืนจากรัฐและนายทุน❗️การต่อสู้ของเครือข่ายชาวบ้านกินเวลานานกว่า 27 ปี

สื่อ The Reporters รายงานมีผู้ลี้ภัยจีนถูกจับหน้าสถานทูตจีน ระหว่างชูป้ายประท้วงประธานาธิบดีจีน ระหว่างประชุมเอเปค ฐานเข้ามาในไทย

ด่วน 10.06 น. ✍️ ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว แซม พรชัย, แม็ก สินบุรี และมิกกี้บัง สามสมาชิก #ทะลุฟ้า โดยให้วางหลักประกันคนละ 100,000 บาท

สมบัติ ทองย้อย ? ถูกคุมขังย่างเข้า 200 วัน หรือนานกว่าครึ่งปีแล้ว! ในคดี ม.112 กรณีโพสต์ #เก่งมากกล้ามากขอบใจ และอีก 2 ข้อความ

ประเด็นเรื่องแรงบันดาลใจเขากล่าวว่า “แม้ส่วนหนึ่งจะได้จากโครงการอาสาสมัครของ มอส. แต่ส่วนใหญ่แล้วมันเกิดขึ้นจากตัวผมเอง” งานที่เขาทำต้องเป็นงานที่เกิดประโยชน์ทางสังคมเสมอ เขาจึงมีแรงบันดาลใจที่จะทำมันอย่างต่อเนื่อง โครงการ อส.นักสิทธิ์ทำให้เขามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการเป็นนักกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม ในวาระ 1 ปี เขาได้เรียนรู้ที่จะทำงานเพื่อชุมชนโดยการทำหน้าที่เป็นทนายในชั้นศาล ทำงานวิจัยเพื่อนำข้อมูลมาสนับสนุนด้านคดีความและใช้สำหรับจัดฝึกอบรมความรู้ให้กับชาวบ้าน

ความสุขจากการทำงานเป็นส่วนสำคัญของการเติมเต็มความฝันของเขา เขากล่าวว่า “ความสุขจากการทำงานมันทำให้ผมมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน และทำให้ผมสามารถสร้างเครือข่ายสำหรับสนับสนุนการทำงานของผมและคนอื่นๆ ได้อีกด้วย”

ปัจจุบันสงกรานต์เเป็นอาจารย์สอนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากการเป็นอาจารย์แล้ว เขายังมีความฝันที่จะก่อตั้งองค์กรที่ทำงานด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมของเขาเองอีกด้วย

สำหรับข้อเสนอต่อ มอส. นั้น เขาเห็นว่า มอส. ควรขยายเวลาของวาระ อส.นักสิทธิ์ ออกไปอีกหนึ่งปี  เนื่องจากกระบวนการเรียนรู้ในด้านกฎหมายเป็นไปค่อนข้างช้า ระยะเวลาหนึ่งปีที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นถือว่าค่อนข้างสั้น ข้อเสนออีกหนึ่งประเด็นคือ มอส. ควรให้อาสาสมัครเลือกทำคดีเฉพาะแล้วศึกษาในเชิงลึกไปเลย จะเกิดประโยชน์มากกว่าการเรียนรู้คดีในภาพรวม แล้วให้อาสาสมัครทำข้อเสนอแนะต่อชุมชน และทำข้อเสนอต่อรัฐ ซึ่งย่อมแน่นอนว่าย่อมเกิดประโยชน์ทั้งต่อชุมชนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง การที่อาสาสมัครมีความตื่นตัว กระตือรือร้นและอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคม ถือเป็นความสำเร็จของโครงการ อส.นักสิทธิ์ ซึ่งในส่วนของอาสาสมัครเองก็ได้พยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่าที่จะทำได้ เขาหวังว่าโครงการนี้ของ มอส. จะยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต เขากล่าวทิ้งท้ายว่า

“คนหนุ่มสาวไม่ควรจะจำกัดตัวเองและตีกรอบความคิดไว้เฉพาะแค่เรื่องเงินทองและทรัพย์สมบัตินอกกาย เพราะมันเป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งของชีวิต แต่การได้ทำงานที่มีความหมาย การได้ช่วยเหลือผู้อื่น และการได้เติมเต็มความฝันของตัวเองต่างหากคือคุณค่าสำคัญของชีวิต ทุกคนจะกลายเป็นคนสำคัญ และยังจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกต่อๆไปให้มีความมั่นคงในชีวิตเหมือนกับที่เรามี”

—————————————————
Siza Nepal / สัมภาษณ์

อารีวัณย์ สมบุญวัฒนกุล / แปล

เมธี สิงห์สู่ถ้ำ / เรียบเรียง

เรื่องโดย มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม และเครือข่ายฯ

ค้นหาโครงการที่เหมาะกับฉัน
thThai